เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๖๔ นางสาวนงนุช กั้งยอด ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเปล เข้าร่วมการประชุมโครงการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาการเรียนรู้เด็กนักเรียนและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร จังหวัดนราธิวาส โดยนายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ให้เกียรติเป็นประธานการประชุม ร่วมด้วยนางดาเรศ จิตรัตน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนราธิวาส ศึกษาธิการจังหวัดนราธิวาส ผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต ๑ , ๒ ,๓ ผู้อำนวยการโรงเรียนใน โครงการตามพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในจังหวัดนราธิวาส คณะกรรมการเหล่ากาชาด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุม ณ ห้องประชุมพระนราภิบาล ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส การประชุมครั้งนี้มีการแจ้งข้อมูลการดำเนินโครงการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาการเรียนรู้เด็กนักเรียนและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร จังหวัดนราธิวาส จากนั้นที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาแนวทางการขับเคลื่อนโครงการฯ ซึ่งได้กำหนดกลุ่มเป้าหมายจากโรงเรียนในโครงการพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ประกอบด้วยโรงเรียนในสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส จำนวน ๑๗ โรงเรียน โรงเรียนในสังกัดกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน จำนวน ๕ โรงเรียน และโรงเรียนในสังกัดสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัดนราธิวาส จำนวน ๓ โรงเรียน รวม ๒๕ โรงเรียน สำหรับแผนและขั้นตอนการดำเนินงาน ให้โรงเรียนนำคะแนนจากภาคเรียนที่ ๒ ในปีการศึกษา ๒๕๖๓ โดยนำนักเรียนที่ปรับปรุงมาดำเนินการสอนซ่อมเสริม เริ่มสอนตั้งแต่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๔ เป็นต้นไป โดยโรงเรียนที่ดำเนินการสอนจะต้องแจ้งข้อมูลการสอนให้แก่เหล่ากาชาดจังหวัดนราธิวาสทราบ เพื่อติดตาม นิเทศ และประเมินผล ในห้วงเวลาที่กำหนด คือ ครั้งที่ ๑ วันที่ ๔ สิงหาคม ๒๒ กันยายน ๒๕๖๔ และครั้งที่ ๒ วันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๖๔ ๒๖ มกราคม ๒๕๖๕ โดยเมื่อดำเนินการโครงการฯ เสร็จสิ้น โรงเรียนต้องสรุปรายงานการสอนให้เหล่ากาชาดจังหวัดนราธิวาสทราบภายในเดือนมีนาคม ๒๕๖๕ โดยผู้เข้าร่วมการประชุมได้เสนอแนวทางการขับเคลื่อน /ปัญหาอุปสรรค เพื่อให้สามารถดำเนินโครงการฯ ให้บรรลุวัตถุประสงค์ ซึ่งในภาพรวมสถานศึกษาที่ร่วมดำเนินโครงการได้ให้ความสำคัญในด้านการอ่านออก เขียนได้ โดยจะมีการจัดการสอนซ่อมเสริมให้เหมาะสมกับบริบทของแต่ละโรงเรียน สภาพปัญหาของเด็กแต่ละคนที่แตกต่างกัน ใช้เทคนิคการสอนที่เหมาะสม เนื่องจากปัญหาการอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ส่งผลต่อการเรียนรู้ในทุกวิชา นอกจากจะสามารถอ่านออก เขียนได้แล้วยังต้องคำนึงถึงการรับรู้ถึงความหมายของข้อความเหล่านั้น เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องอีกด้วย ทั้งนี้ กรณีที่ขาดแคลนครูผู้สอนทางสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดนราธิวาสจะจัดครูอาสาไปช่วยสอนในโรงเรียนเพิ่มเติม ซึ่งจากการดำเนินการที่โรงเรียนบ้านโคกสยาที่เป็นโรงเรียนนำร่อง นักเรียนที่อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ๕ มีจำนวน ๒๗ คน หลังจากมีการสอนซ่อมเสริม จากการประเมินผลครั้งที่ ๑ นักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมินบางส่วนคิดเป็นร้อยละ ๓๐ ซึ่งจะนำข้อมูลต่างๆมาถอดบทเรียน เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของเด็กนักเรียนและเยาวชนให้มีความเหมาะสมต่อไป บันทึกข้อมูลเมื่อ 31-01-2564
|